อาสนศวรา

อาสนศวรา

ปฐมบทองค์ที่๑ *** อาสนศวรา *** วลีคำนี้แลจะไม่คุ้นหูแต่มีความสำคัญในแบบฉบับคติศาสตร์เรือนชานมายาเทวีอย่างที่สุด คราใดก็ครานั้นถ้าต้องลงมือจัดเตรียมศาสนว่าด้วยพิธีบัตรพลีถวายในความเรียบง่ายได้ใจความมักจะแฝงไว้ด้วยความไม่มักง่ายกับบาทวิถีแห่งศรัทธา ง่ายเข้าไว้พรแห่งจักรวาลก็จะได้มาครองกายาแบบง่ายๆแต่ต้องไม่มักง่ายนะเจ้าค่ะ โดยเฉพาะที่มาของวลีคำว่า *** รากฐานเทวยาตรา *** นั้นก็คือสิ่งที่นำพามาบรรจุอยู่ภายในแท่นเทวาสถิตหรือที่เรียกง่ายๆว่าขึ้นแท่น อาสนศวรา ตามวลีคำองค์ครูเรือนชานมายาเทวีได้กล่าวไว้ พูดให้น้อยทำให้มากเสมือนดั่งเช่นปทุมมาศผลิบานรับแสงตะวันฉาย สายลมพัดโชยกลิ่นกรุ่นค่าของบัวคืออาสนใต้เบื้องพระบาททวยเทพเทวดาทุกคราเมื่อยาตรา๙เดินบนปฐวี …

ความหมายแฝงไว้ให้คิดพยายามในสิ่งใดยากจะสำเร็จถาวรไม่ แต่จงวางความพยายามไว้ให้ไกลตน แต่จงหยิบจับวางทุกสิ่งรอบข้างกายาขึ้นกระทำด้วยความเพียร ความเพียรนั้นจะนำพาให้ได้พบกับความสำเร็จและครองความสำเร็จนั้นได้อย่างยาวนานที่สุด ๑วลีคำกล่าวองค์ครูเรือนชานมายาเทวีได้กล่าวไว้เตือนจิตทุกสิ่งจะเสร็จสำเร็จได้ดั่งจิตอธิฐานนั้นเจ้าจงมองดอกปทุมมาที่ผลิบานกลีบดอกล้อเล่นลมท่ามกลางสายชลธีธารไว้เป็นโจทย์นำพาชีวิต สติมีปัญญาเกิดคิดเป็น๑นั้นพึงวิเคราะห์ด้วยปัญญาตน ๙เดินหาในคำตอบที่ได้ผ่านประสบการณ์ชีวิตในแต่ละวันที่๙เดินเคียงไพรในสถานมารวมกันไว้ให้เป็น๑นั้นในจักรวาล ต้องประกอบไปด้วยธาตุมงคลทั้ง๔ในตรีจักรวาลภาคพื้นพิภพปฐวีในโลกามารวมกัน หากไม่พร้อมด้วยมวลสารอันเป็นมงคลใดอย่าคิดทำ มูรติแต่ละองค์ที่จะยาตราขึ้นสถิตเป็นองค์ประธานนั้นนอกจากทิศทางการเคลื่อนผ่านของดวงสุริยันแลจันทราฉาย กระแสลมที่พัดผ่านณ.บริเวณที่สร้างองค์เทวลัยเพื่อสถิตเทพเทวดาถาวรนั้น ทุกสิ่งต้องสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันจงจำไว้ให้ขึ้นใจก่อน ยาตราขึ้นสถิต …

*** กำไร ***

ปทุมมาศ หมายปทุมดอกบัว มาศหมายทองคำ ปทุมมาศคืออาสนขององค์ครูผู้นำพาจิตในทุกศาสว่าด้วยวิถีแห่งศรัทธานั้นต่างให้ความสำคัยกับอาสนของผู้นำในศาสตร์แห่งตนด้วยกันทั้งสิ้น บัว เป็นไม้ดึกดำบรรพ์ที่ยังคงเหลืองอยู่ให้เห็นพร้อมนำพามาใช้ตราบจนทุกวันนี้ในการบัตรพลีบูชาถวาย *** อาสนศวรา *** คือ รากฐาน ฉัตราศวรา คือ ส่วนประกอบที่อยู่สูงที่สุดขององค์เทวลัยน้อย-ใหญ่นั้นเอง มนุษย์ผู้ศรัทธารังสรรค์สร้างขึ้นถวายต่อพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ต่างต้องสร้างรากวางยอดด้วยกันทั้งสิ้น ความสำคัญของยอดและรากฐานในแต่ละเทวลัยน้อยใหญ่นั้นขึ้นอยู่ที่เจตจำนงของผู้นำริเริ่มในการก่อและสร้าง จะให้ค่าหรือมิรู้ค่าในมวลสารธาตุนั้นก็สุดแล้วแต่จริตของผู้นำในแต่ละสายนั่นเอง สร้างดีมีชัยไปกว่าครึ่งทางพอมีให้เห็นแต่ที่เห็นผ่านตาสักแต่ว่าสร้างก็เพื่อแสดงตนว่ากูมี กูสร้างมีมากโข ชีวิตไม่เคยสายเกินแก้เพราะเท่าที่ผ่านมาบนโลกแห่งมายาว่าด้วยศาสนพิธีบัตรพลีบูชาถวายต่อทวยเทพเทวดา กรูไม่เคยต้องย้อนคิดย้อนกลับมาแก้ไขในสิ่งที่หยิบจับวางว่าไว้ด้วยคำว่า *** ศวรา *** เลยสักคราเดินเจริญตนตามเจตจำนงขององค์ครู ทุกสิ่งที่หยิบจับขึ้นทำก็สมดั่งจิตปรารถนา ไม่บอก ไม่เรียก ไม่ชวน ไม่รับก้เสร็จสำเร็จได้ด้วยทรัพย์ตนทุกบาททุกสตางค์ …

วลีคำว่า กำไร กำไรชีวิตคือพรที่ทุกคนต่างปรารถนาจะได้ครอง มีโอกาสได้ทำไม่ว่าสิ่งนั้นที่ได้ทำคืออะไรมันคือโอกาส โอกาสมาถึงให้ได้ทำกำไรชีวิต กำไร๑เครื่องประดับเสริมสร้างความสวยงามบนลำแขนแสนงามของสตรีชาวภารตะต่างให้ความสำคัญกับความสวยงามตามวรรณะเกิดกำเนิดลืมตามา เป็นสาวภารตะโดยสมบูรณ์แบบ หน้าที่ของมารดาผู้ให้กำเนิดเกิดบุตรีต่างต้อจัดเตรียมไว้เคียงกายบุตรีตัวน้อยของตนจะด้วยวรรณะใดก็วรรณะนั้น กำไร มงคงไว้เคียงกายา ๑ในองค์ครูเรือนชายมายาเทวีสั่งให้ดิฉันได้จัดสร้างกำไรขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๔ ๓๔ศกที่ผ่านมา ราคาขายทองรูปพรรณอยู่ที่ราคาโดยประมาณบาทละ ๔,๓๐๐ บาท แต่ละวงน้ำหนักกี่บาทนั้นจำไม่ได้จริงๆ โสตประสาทจำได้ว่ายอดในการสั่งทำกำไรบ้านอุมากาลีในยุคสมันนั้น ๑๖วง ส่งมอบให้สานุบุตรีบนเรือนชานบ้านอุมากาลีในยุคสมัยนั้นได้สวมใส่ องค์ครูกล่าวไว้เพียงว่ากำไรนั้นมีความหมายกับสตรีเพศ พึงสวมใส่ไว้เป็นมงคลแด่บุตรีอห่งข้าแต่แรกเกิด องค์ครูจึงสั่งให้สร้างขึ้นใช้ระยะเวลาในการจัดสร้างราวๆ๑ศกเต็มๆกับกำไรทั้ง๑๖วง แต่ละวงองค์ครูยาตราเสมอเรือนจารผ่านหัตถาลงบนกำไรทองคำบริสุทธิ์ ย้อนนึกถึงเหตุในวันวานก็ปิติในจิตทุกคราได้องค์ครูดีชีวิตผู้เป็นศิษย์มีชัยไปกว่าครึ่งทางนะเจ้าค่ะ …

ถ้าย้อนกลับสู่วันวานได้กรูนี่อยากจะเก็บไว้เองทุกชิ้นอันที่องค์ครูได้สั่งสร้างขึ้นไว้ให้หมด ด้วยวัยที่สร้างหรือก็ยังคิดไม่ได้เพราะไม่คิดฝันว่าวิถีชีวิตกรูจะ๙มาไกลถึงขนาดได้เป็น๑ผู้สร้างสถานแห่งศักติมายาขึ้นไว้เป็น๑มรดกของแผ่นดินเกิด ถ้าหยั่งรู้ในจิตว่าต้องใช้ในศาสนว่าด้วยพิธีสถาปนาอาสนศวราให้แล้วเสร็จก่อนยาตรา ศรีอรรถนาถเทวีศวร ขึ้นสถิตเป็นองค์ประธาน ณ.มหามายา ภูมายาเทวีสถาน กรูจะเก็บขึ้นไว้ทุกชิ้นอันที่องค์ครูได้กล่าวให้จัดสร้าง เดชะบุญยังมีแรงศรัทธาที่รู้ในคุณองค์ครูผู้ชี้นำ นำกลับมาส่งมอบไว้เป็น๑มวลสารมงคลในการสถาปนา *** อาสนศวรา *** สถิตองค์ประธาน ก่อนลาจากสู่ไศวภพ ผลบุญนำส่งให้ผู้มีคุณมากด้วยสุขยิ่งๆขึ้นไปในภพต่าง ต่างคิดย่อมต่างกระทำวิถีทำที่นำพาให้ผู้ศรัทธาในองค์ครู๙เดินตามกรูนับหน้าได้เลย ศิษย์กรูดีๆที่มีคือใจเป็น๑ไม่เคยเป็น๒ เท่านี้ก็สุขใจ …

ตำเอ๋ยตำราทุกเล่มต่างกล่าวไว้ว่าให้ต้องทำ ทำตามตำรา ตำราเล่มใดก็เล่มนั้นต่างกำหนดตัวอักษรไว้ด้วยคนบันทึกเขียนทั้งสิ้น ไม่มีตำราว่าด้วยวิชาความรู้ใดที่ใช้ในศาสนว่าด้วยพิธีตกลงมาจากสวรรค์ชั้นฟ้าฉันใด ฉันนั้นกรูไม่เคยอิงตามตำราใดในโลกาภิภพ แล้วไฉนหนอกรูต้องทำตามตำราที่นิยามในค่านิยมตามกระแสมาใช้ สมองมีคิด สติมีพิจารณา ปัญญาวิเคราะห์แยกจำแนกได้ว่าอะไรที่ใช่ อะไรที่พึงใช้และอะไรที่เหมาะสมอะไรที่ตรงต่อเหตุ การในกาลว่าด้วยความเป็นสิริมากมงคลถูกกำหนดผ่านวลีคำองค์ครูสถิตเรือนเท่านั้น สำหรับกรูย้อนเตือนตนกรูผู้สร้าง ตรวจทานสิ่งของที่ต้องใช้ไม่ต้องมากด้วยราคาแต่เน้นใช้เฉพาะแท้ด้วยธรรมชาติสร้างตามคำองค์ครูกล่าว เท่านี้ก็สุขใจ …

ทุกสิ่งในทุกศาสนว่าด้วยพิธีของใช้ที่ถูกนำพามาใช้พิธีนั้นล้วนแล้วแต่ใช้เฉพาะตามวลีคำกล่าวขององค์ครูสถิตเรือนได้กล่าวทั้งสิ้น ย้อนทบทวนความแต่โบราณมาจะเห็นได้ว่าชาติใดๆก็ชาตินั้นต่างมีขนบธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนชั้น เชื้อชาติ ศาสนารวมไปถึงความเชื่อของชนกลุ่มน้อยใหญ่ ค่านิยมใช้ในเครื่องบัตรพลีถวายก็แตกต่างกันออกไปตามตนคนคิดสร้าง ในความต่างแฝงไว้ด้วยความเชื่อในอารยธรรมที่ต้องกระทำ ต่างด้วยขนบธรรมเนียมประเพณียึดถือปฏิบัติตามเชื่อที่แตกต่างกันออกไป บรรพชนเราชาวสยามก็เช่นกันผู้สร้างมักจะนิยมนำของมีค่าทีเครื่องประดับตัวตนนั้นมาทำบุญทำให้เป็นทาน สะสมผ่านความหวังว่ากำเนิดเกิดในภพชาติหน้า มีกิน มีใช้ มีสวมใส่มากกว่าภพชาตินี้ หลากความฝันของบรรพชนทุกอารย คือ ความละโมบ …

ตรงกันข้ามความตามวิถีดิฉันเองไม่เคยคิดอยากมีมากในภพชาติหน้า ชอบชาตินี้ที่หยิบจับสัมผัสได้ไม่ต้องมากตามใครมีสุขเท่าที่เรามีเท่านี้ก็สุขใจ เช่นนั้นเลยด้วยชาติกำเนิดเกิดมาในภพภูมินี้ใช้๓๒สิ่งในกายาที่ติดตัวมาแต่เกิดให้คุ้มค่า ค่าของคนอยู่ที่การกระทำตน ตนทำในสิ่งใดตนย่อมได้ในสิ่งนั้นทั้งหมดทั้งมวลนั้นต่างกันด้วยที่มา มา๑จะกลับยกโขยงก็ใช่ที่มิเช่นนั้นที่คือสถานที่ๆดิฉันสร้าง สร้างขึ้นเพื่อถวายต่อพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ที่ดิฉันเคารพ จึงไม่แปลกที่จะลบค่าความต่างให้พ้นทาง …

แวะพักจริตระหว่างทางในการเขียนสักหน่อยทางใครก็ทางมันไม่มีอยู่จริงในแวงวงมายาสาไถ ไถหวานสาดกราดความสาดใส่กันไม่เว้นวัน เพราะทุกย่าง๙ที่กรู๙เดินนั้นมากด้วยจิตความเป็นกรู ย่อมต่างคิดต่างกระทำมันมักจะแวะเวียนเข้ามาสอด-ส่อง-เสือก-สาระแนเรื่องกรูไม่ขาดจอ จากรุ่นสู่รุ่นก็ไม่เห็นมีไอ้-อีหน้าไหนที่เฝ้าหมอบแนบหน้าผ่านจอสาระแนเสือกรู้เรื่องกรูทำได้สักตัว กรูของใช้คำว่าตัวเหมาะสมกับสถานภาพฅนชอบเสือก รายวันเป็นที่สุดแวะชมยังชอบคาบไปสุมใส่ในวิถีฅนชาวรู รูไหนรูนั้นเห็นก็ยังนิยามในค่านิยมขยับปากเสกเป่าให้กำเนิดเกิดความเป็นมงคลจากลมปากแสร้งแฝงพระนามเทพเทวดาหากิน ไม่แปลกเพราะมีอยู่จริงในสังคม ฅนลักกรู …

วิถีองค์ครูสยามที่ดิฉันให้ความเคารพนับถือเทียบเทียมเสมอเหมือนพระมารดา๑เดียวในดวงใจนั้น ได้กล่าวชี้นำพาเรื่องเครื่องทองอันเป็นมงคลแต่โบราณนิยามในค่านิยมไว้ว่า สยามแต่โบราณหากมีการสร้างพุทธสถานรวมไปถึงเทวลัยสถานก็ดีนั้นนิยมใช้เครื่องทองลงยาราชาวดีเป็น๑เครื่องถวายเป็นพุทธบูชา หากเป็นเครื่องประดับลงยาราชาวดีนั้นนิยามใช้ถวายขึ้นเป็น๑เครื่องสักการะเทวบูชาไว้ในใจกลางสถูป-เจดีย์รวมไปถึงแท่นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์นั้นเอง ด้วยที่มาของคำว่าลงยา คือขั้นตอนที่มีมาแต่โบราณคือ๑ภูมิปัญญาชนที่ทั่วทุกมุมโลกใช้และมีเฉพาะใช้กับบุคคลที่มีฐานะดี จะเห็นได้จากวาระดิถีงานมงคลระดับชาติเราชาวสยามเองก็นิยมใช้ ถึงเวลาหยิบจับเส้นสายสร้อยมงสูตรที่สร้างขึ้นถวายในดิถีมงคลครบเทวสถาน-มูรติองค์เจ้าแม่ศรีมหาอุมากาลีเทวีครบ ๒๕ ศกที่ผ่านมารวมขึ้นใช้ในศาสนพิธี อาสนศวรา ในกาลนี้ตามวลีคำองค์ครูสยามได้ชี้นำ …

บางสิ่งในอีกหลายอย่างกับคติศาสตร์เรือนชานมายาเทวี สร้างใครๆก็สร้างได้แต่สำหรับวิถีกรูที่กรูเป็นกรูหาใช่เป็นครูใคร หยิบจับจ่ายสะสมไว้เพื่อใช้ในศาสนว่าด้วยพิธีกรรมที่ไร้สิ้นซึ่งกำ กำใดไหนเลยไม่ต้องเล่าเพราะที่ผ่านมากว่า๓ทศวรรษก็เล่าความนำขายไปมากเกินพอ ถึงกาลพึงพอในถ้อยวลีคำกล่าวเติมเสริมขยาย วรรณะกำหนดไว้ด้วยเชื้อกำเนิด สายเลือกกำหนดไว้ด้วยชาติเชื้อ ๒สิ่งในความต่างกำเนิดเกิดต่างที่ต่างอารยมิได้ต่างด้วยแรงแห่งศรัทธา เกิดครั้งเดียวตายจากก็ครั้งเดียวสิ่งที่สร้างบนภาคพื้นปฐวีเวียนบรรจบครบถึงการบูรณะ แต่รากฐานอาสนศวราเพียงครั้งเดียวต้องพร้อมถึงกระทำ …

องค์สำคัญท้ายแต่ไม่สุดของวลีคำ อาสศวรา สุขในบาทวิถีแห่งศรัทธา๙เดินเคียงดินทุกสิ่งต่างด้วยวิถีองค์ครูกรูชี้นำ ทุกสิ่งที่กรูหยิบจับขึ้นใช้ต่างต้องรู้ตนมาก่อนกาล การในกาลอันเป็นมงคลหมายกับสิ่งที่รังสรรค์สร้างต่างจากทุกที่ต่างจากทุกวิถีนำพา องค์ครูกรูได้กล่าวไว้เพียงว่า *** ไม่ครบอย่าคิดทำ *** ท่องไว้ให้ขึ้นจิตเทพเทวดาสถิตพลังแห่งจักรวาลต้องครบถ้วน จงอย่าได้สมมุติว่ามีเพียงแค่ควักวาง๑บาทไว้ในศาสนพิธีบัตรพลีถวายต่อเราเช่นใครอื่น อื่นยันหมื่นแสนสถานต่างสร้างเพื่อค้านามแห่งเรา จิตเจ้าผู้สร้างเราพึงหมั่นเพียรขัดเกลาจิตให้ไร้สิ้นจริตในวิถีแห่งมายา ๓ทศวรรษที่เวียนผ่านคือการขัดเกลาให้รู้ รู้แล้วทำเพียรทำให้แตกฉานกาลใหญ่ครานี้จงเตรียมทุกสิ่งไว้ให้พร้อม ดิน น้ำ ลม ไฟ นวธาตุทั้ง๙ให้ครบถ้วนในกาลนี้ ยืนต้องยืนให้ถูกที่ ๙เดินให้ถูกทางถึงจะสำเร็จ ทุกทิศทุกทางกับทางสัญจรเทวลัยสถานแห่งเราพึงมีช่อง ช่องใดต่างจงปิดช่องทางทำการค้าเพียงหวังขายผ่านนามแห่งเรา อย่าให้บังเกิดในสถานที่เจ้าสร้าง *** มหามายา ภูมายาเทวีสถาน เป็นพอ *** … เพลิงในมายา