จตุรถี๒๕๖๔

จตุรถี๒๕๖๔

ปฐมบทความคนชอบเล่าดิฉันเลยชอบเขียนสวนกระแสฅนไม่ชอบอ่าน *** จตุรถี บูชา *** ๑เทศกาลมงคลบนบาทวิถีแห่งศรัทธา สิบนิ้วพนมขึ้นเหนือศีร จิตในกายาวันทาองค์ปฐมคีตาจารย์แห่งศาสตร์และศิลป์ทั้งปวงในตรีจักรวาลบทความนี้ดิฉันขอเล่าความผ่านตัวอักษรในฐานะผู้ศรัทธาแบบปถุชนคนธรรมดาสรรเสริญองค์ครูสายศิลป์ที่เรียนมา หาใช่นำเสนอผ่านศาสนว่าด้วยการเล่าผ่านตัวอักษรเชิงสอนร่ายมนต์ดลคาถาประกอบพิธีบูชาถวาย คุณผู้แวะมาทัศนาจะได้ไม่เสียเวลาภิรมย์ชมอ่านนะเจ้าค่ะ …

*** ถวายศีล ***

ถวายศีลก็หมายถึงการรับศีลบอกกล่าวใจตนให้พร้อมรู้ พร้อมปฏิบัติตนให้รู้ศีลพร้อมรู้ทำในสิ่งที่กำลังจะกระทำถวายเบื่องหน้า มูรติองค์ปฐมบรมครู ผู้ที่ติดตามดิฉันย่อมทราบดีว่าการถวายศีลจะเริ่มต้นก่อนวันจตุรถีบูชาล่วงหน้า ๑๐ราตรีกาล รับศีลหรือถวายศีลนั้นก็คือการบอกกล่าวเล่าความอธิฐานจิต ถวายจิตราฤกษ์ในกายาผ่านมายาแห่งศรัทธาในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์แห่งราชบุตรเอกแห่งมหามายาในศักติมายานั่นเอง เรียบง่ายได้ใจความไม่ต้องมากเรื่องให้มากความใจเราพร้อมหยิบจับในสิ่งที่มีพร้อมสรรเสริญปฐมจตุรถีบูชาในค่ำคืน แรม ๑๐ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๔ ปี ฉลู …

ชนนี๑เดียวในดวงใจกล่าวไว้สอนใจเสมอว่าเริ่มในสิ่งใดถ้าใจพร้อมทุกสิ่งที่หยิบจับขึ้นกระทำให้ถูกกาลเทศะก็จะนำพามาซึ่งความเป็นมงคลชีวิต ชีวิตพึงรู้หน้าที่ตนว่าพึงกระทำในสิ่งใด เทศกาลแต่ละเทศกาลต่างแฝงไว้ด้วยความหมาย ให้สาวกแห่งเทพเทวดาพระองค์นั้นรู้ในหน้าที่ เมื่อมีต้องรู้บูชา เมื่อแสวงหามาครอบครองต้องรู้ปฏิบัติ คุณค่าในศรัทธาอยู่ที่ตนกระทำๆในสิ่งที่ตนพร้อมทำในสิ่งที่ตนเคารพบูชาให้ดี ดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงของดีมีราคาแต่พึงรู้คุณค่าของของที่นำพามาบูชาถวายต่อเทพเทวดานั่นเอง …

*** โอม คเณยะ ปาติ โอม ***

วิถีแห่งการถวายมันตราเป็นที่ปรารถนาจ้องแสวงหามากล่าวสรรเสริญขึ้นต้นบทนำกล่าวในพิธีตามอัธยาศัย สำหรับดิฉันไม่เคยใช้มันตราใดออกจากปากนอกจากมันตราบทนี้ *** โอม คเณยะ ปาติ โอม *** ใช้มากว่า๓ทศวรรษไม่เคยเปลี่ยนมนต์มีไว้ประกอบการบูชาฉันใด ฉันนั้นใช้มันตราแล้วบังเกิดผลสำเร็จกับวิถีชีวิตตัวเราเองก็ใช้ไปเถอะเจ้าค่ะ ความจริงชีวิตหาใช่ขึ้นอยู่กับมนต์ความเจริญของชีวิตนั้นขึ้นอยู่ที่คิดกระทำตน คิด-วิเคราะห์-แยกแยะ เจริญแน่นอน เท่าที่ผ่านมาหยิบจับกระทำการในกาลใดไม่เคยขาดวลีคำสรรเสริญบูชาต่อองค์ปฐมบรมครู *** โอม คเณยะ ปาติ โอม ***

แดงนั้นสำคัญไฉน สำคัญสิเจ้าค่ะชนนี๑เดียวในดวงใจกล่าวไว้ว่าสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่เคลื่อนกายาตนบนโลกใบนี้ต่างเกิดกำเนิดมาพร้อมกับสีแดง แดงคือสีของโลหิตจากความเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดเกิดเป็นบุตร ไม่มีบุตรคนใดในโลกที่เกิดกำเนิดมาโดยไม่ผ่านโลหิต ศาสนว่าด้วยพิธีสรรเสริญเทพเทวดาก็เช่นกันไม่มีสิ่งใดเริ่มสาดส่องสว่างโดยไม่ก่อเกิดจากสีแดง ธูปเมื่อแรกจุดก็สีแดง กำยานหอมกรุ่นแรกจุดก็สีแดง แม้การโหมกูณฑ์ถวายต่อเราเหล่าเทพเทวดาก็ล้วนแล้วแต่เกิดกำเนิดสีแดงขึ้นเป็นสีแรกของการบูชาด้วยกันทั้งสิ้น …

แดงในวันเริ่มต้นกล่าวถวายสัจจาธิฐานรับศีล จตุรถี บูชา ไม่มากความอันใดแดงดอกทับทิม ยอดหญ้าแพรกที่เคียงดิน มะพร้าวห่อผ้าแดงเสมือนน้ำทิพย์กลางหาวรากฐานแห่งปทุมมาศสัญลักษณ์แห่งจักรวาล กลิ่นกรุ่นจรุงจิตกำยานหอมจากพรรณไม้ในสถานผ่านกระดาษสาม้วนขดขึ้นเส้นถวายองค์ครู หลายคนถามหลายคนอยากรู้เรียบง่ายเพียงเท่านี้จริงๆไม่เคยมากความห่มสีแปลก ไม่ปรารถนาจะแสวงหามันตราใดที่กำหนดไว้เฉพาะวรรณะมากระทำ ทุกวันนี้เจริญในตนในวิถีแห่งตนเลือกกระทำให้ถูกกาลเทศะกับศรัทธา มากความมากเรื่องจนเกินความพอดีมีให้เห็นมักพาซอ __ เติมคำในช่องว่างตามอัธยาศัยเจ้าค่ะ

*** โอม คเณยะ ปาติ โอม ***

ชนนีฤกษ์กำหนดให้เริ่มจตุรถี บูชาในคืนแรม ๑๐ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๔ ปี ฉลู เป็นเทวฤกษ์แรก บูชาถวายรับอรุณ สุริยะนมัสการตลอดระยะเวลา ๙วัน ๙ราตรีกาล เทวฤกษ์ที่๒. จตุรถีบูชาเริ่มวันที่ ๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๔ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๓ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีฉลู ถวายปฐวี๘ทิศขึ้นรังสรรค์ปั้นองค์มูรติจำลองยาตราขึ้นสถิต ณ.โรงพิธี เทวฤกษ์ที่๓. วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๔ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีฉลู สรงสนานสรรเสริญพระนามผ่านเมล็ดพันธุ์ธัญพืช ใบไม้เบญจมงคล เทวฤกษ์ส่งองค์ปฐมบรมครูยาตรากลับสู่ไศวภพ รับอรุณรุ่งเสียงแรกแห่งปัญญาพญายืนคอนโกงคอขันรับตะวันเช้าวันที่ วันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๔ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีฉลู เป็นอันเสร็ดพิธี คเณศจตุรถี บูชา … 

*** โอม คเณยะ ปาติ โอม ***

แสงใดก็แสงนั้นแสงแห่งสว่างที่สาดส่องเบื้องหน้าผู้ศรัทธาผ่านเบื้องหน้ามูรติเทพเทวดาพระองค์นั้น ไม่ว่าจะเป็นเพียงค่ำคืนหรือสาดส่องสว่างในเทศกาลสรรเสริญถวายต่อพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ คติศาสตร์เรือนชายมายาเทวีไม่นิยมผ่านตัวกลางใดๆในพิธี ทุกสายใยสายศรัทธาต่างกำเนิดเกิดศรัทธาด้วยใจ ดิฉันจะสอนให้เขาเหล่านั้นรู้จักการกระทำตนผ่านพิธีบูชาสรรเสริญถวายด้วย๒มือตนเอง ไม่ต้องมากความอันใดให้มากเรื่อง ที่ผ่านมากว่า๓ทศวรรษดิฉันทำมาหมดแล้วทั้งสิ้น สิ้นเปลืองโดยแท้ๆที่จริงแล้วพิธีสอนให้เราผู้ศรัทธารู้ถึงกำ รู้ถึงกำในกรรม รู้ในหน้าที่ รู้กระทำนำถวาย ไม่มากด้วยวลีคำ ไม่มากด้วยของมีราคา ทุกสายใยสามารถเข้าถึงนามอันสักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเสมอภาคกัน เทวดาไม่เลือกคนฉันใด ฉันนั้นพึงรู้กาลเทศะที่พึงกระทำถวายต่อเทพเทวดา ความเจริญ ไม่ไกลเกินไขว่คว้า ถ้าใช้ใจให้ถึงวิถีแห่งศรัทธา …

*** โอม คเณยะ ปาติ โอม ***

ศุขในสุขแห่งจตุรถีบูชา ท้ายสุดของบทความนี้ตนต่างเป็นที่พึ่งแห่งตน ศาสตร์ใดก็ศาสตร์นั้น วลีคำกล่าวใดก็วลีคำกล่าวนั้นล้วนต่างหยิบยกขึ้นสร้างตนมากกว่าสร้างความศรัทธาให้คงอยู่คู่ความบริสุทธิ์ของผู้ศรัทธาไม่ ไม่รู้ถือว่าไม่ผิด ไม่มีสิ่งใดผิดกับสิ่งที่พลีถวายต่อเทพเทวดา แต่พึงรู้ตัว รู้ตนว่าสิ่งที่เราหยิบจับเอ่ยความออกจากปาก ปากนั้นสำคัญไฉน ไฉนเลยถึงนิยมใช้ปากในการสรรเสริญ ปากดีเป็นศรีแก่ตน ถ้าใช้ปากผิดในวลีคำหมายสิ้นแล้วด้วยศรัทธาที่เคยขาวสะอาด พึงรักษ์ไว้ด้วยศรัทธาเทพเทวดาอำนวยอวยชัย ฟ้ามีตา จักรวาลมีใจ สมปรารถนาในทุกสิ่ง เจริญ๙หน้าในชีวิตด้วยหน้าที่การงานในสาขาอาชีพเจริญด้วยพรแห่งฟ้า จักรวาลประทาน ปฐวีเปิดทางให้สมปรารถนาในวิถีแห่งความดีที่กระทำหนุนนำส่งถ้วนหน้านะเจ้าค่ะ #ความจริงจงเจริญ … เพลิงในมายา